เมื่อวันอังคารที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมาราคาเคลื่อนตัวเเบบ Sideway up จากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 30.457 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 31.078 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.006 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 09.01 น.
ราคารับซื้อ 34,300 บาท
ราคาขายออก 34,600 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 31.200 และ 31.500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 30.700 และ 30.455 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง 0.08% แตะที่ระดับ 106.365
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 34.401 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.226%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย.เเละนักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในงานเสวนา New York Times DealBook Summit ซึ่งจัดขึ้นที่นครนิวยอร์ก ในวันพุธที่ 4 ธ.ค. เวลา 13.45 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. เวลา 01.45 น.ตามเวลาไทย นักลงทุนมองว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลข JOLTS อาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีความระมัดระวังในการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยตัวเลข JOLTS เป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,705.53 จุด ลดลง 76.47 จุด หรือ -0.17% โดยดาวโจนส์ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ส่วนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ยังคงปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี