เมื่อวันพุธที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคามีความผันผวนโดยช่วงเเรกมีเเรงซื้อเข้ามาดันให้ราคาพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 30.997 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่ที่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 32.300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะโดนเเรงเทขายกลับเข้ามากดให้ราคาร่วงลงกลับมาอยู่บริเวณ 31.471 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.700 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เวลา 09.02 น.
ราคารับซื้อ 33,750 บาท
ราคาขายออก 34,050 บาท
ติดตามราคา แท่งเงิน 1 กิโลกรัม ได้ที่นี้ คลิกเลย
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 32.292 และ 32.718 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 31.380 และ 30.986 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.48% แตะที่ระดับ 101.677
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.075 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.788%
ปัจจัยนักลงทุนติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด หลังจากอิสราเอลประกาศว่าจะโจมตีอิหร่าน เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม Islamic Resistance ในอิรัก ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายชีอะห์และได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ส่งโดรนโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในอิสราเอล
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,196.52 จุด เพิ่มขึ้น 39.55 จุด หรือ +0.09% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดีนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร