เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มกมารคมที่ผ่านมา ราคาเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.555-30.902 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.221 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 09.04 น.
ราคารับซื้อ 33,400 บาท
ราคาขายออก 33,700 บาท
ติดตามราคา แท่งเงิน 1 กิโลกรัม ได้ที่นี้ คลิกเลย
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 31.641 และ 31.800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 30.894 และ 30.500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% แตะระดับ 103.297
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.300 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.087%
ปัจจัยนักลงทุนมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากในการประชุมที่เหลือของปีนี้ ซึ่งมุมมองดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อดอลลาร์ นอกจากนี้ตลาดยังรอดูถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ด้านยูโรอ่อนค่าก่อนธนาคารกลางยุโรปประชุมสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกันจีนประกาศในวันเสาร์ (12 ต.ค.) ว่า จะเพิ่มการก่อหนี้ขึ้นอย่างมากเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว แต่ไม่มีการเปิดเผยขนาดรวมของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับการประเมินความยั่งยืนของการฟื้นตัวของตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,065.22 จุด เพิ่มขึ้น 201.36 จุด หรือ +0.47% ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันจันทร์ (14 ต.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเหนือระดับ 43,000 จุดได้เป็นครั้งแรก
เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก่อนการเปิดเผยผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ขณะที่การซื้อขายในวันจันทร์เป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันโคลัมบัส (Columbus Day)