เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาราคาเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.208-30.808 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 30.622 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น.
ราคารับซื้อ 34,150 บาท
ราคาขายออก 34,450 บาท
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 30.817 และ 31.139 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 30.177 และ 29.673 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% สู่ระดับ 106.686
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 34.795 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.428%
ปัจจัยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ย.) ว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ย. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 2.85% ในเดือนต.ค. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 1.98%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,444.99 จุด ลดลง 305.87 จุด หรือ -0.70% โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน, ความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อเศรษฐกิจโลกและภาคธุรกิจ รวมถึงการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ