เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเเรงเทขายเข้ามาในปริมาณมากกดให้ราคาร่วงลงจากจุดสูงสุดของวันที่ราคา 33.897 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดของวันที่ราคา 32.506 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 32.673 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.01 น.
ราคารับซื้อ 35,550 บาท
ราคาขายออก 35,850 บาท
ติดตามราคา แท่งเงิน 1 กิโลกรัม ได้ที่นี้ คลิกเลย
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 33.052 และ 33.422 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 33.300 และ 32.000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง 0.2% แตะที่ระดับ 103.88
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.840 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.277%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ต.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 111,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือน ต.ค.
นักลงทุนกังวลว่ามาตรการต่าง ๆ ของทรัมป์ เช่น แผนการปรับลดอัตราภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน จะทำให้สหรัฐฯ เผชิญกับการขาดดุลงบประมาณมากขึ้น และจะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,763.46 จุด ลดลง 378.08 จุด หรือ -0.90%
ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดิ่งลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. หลังจากบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) และเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ระบุว่าต้นทุนด้านเทคโนโลยีปัญญาณประดิษฐ์ (AI) ที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท