เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีเเรงซื้อกลับเข้ามาดันให้ราคาพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 30.200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่ที่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 30.900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 30.464 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ราคารับซื้อ 33,700 บาท
ราคาขายออก 34,000 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 30.692 และ 30.858 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 30.20 และ 30.000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง 0.38% แตะที่ 105.737
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 34.516 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.219%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค. ดัชนี ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือน พ.ย. ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือน พ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคเดือน ธ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของยูโรโซน ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน อังกฤษด้วยเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,910.65 จุด เพิ่มขึ้น 188.59 จุด หรือ +0.42% ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อาทิ หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกได้รับความสนใจ เนื่องจากฤดูกาลชอปปิงช่วงวันหยุดได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในสหรัฐฯ