เมื่อวันพุธที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา มีเเรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาถูกเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ดันให้ราคาพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 27.761 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่ที่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 28.341 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 28.308 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 5 กันยายน 2567 เวลา 09.31 น.
ราคารับซื้อ 30,950 บาท
ราคาขายออก 31,250 บาท
ติดตามราคา แท่งเงิน 1 กิโลกรัม ได้ที่นี้ คลิกเลย
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 28.648 และ 28.864 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 27.757 และ 27.563 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.46% แตะที่ระดับ 101.357
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.935 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.765%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP ส่วนในวันพรุ่งนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.
โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 49% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 41% ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,974.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.04 จุด หรือ +0.09% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรง และเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน