เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเเรงเทขายเข้ามาในปริมาณมากกดให้ราคาร่วงลงจากจุดสูงสุดของวันที่ราคา 32.333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดของวันที่ 31.415 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.378 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เวลา 09.02 น.
ราคารับซื้อ 34,100 บาท
ราคาขายออก 34,400 บาท
ติดตามราคา แท่งเงิน 1 กิโลกรัม ได้ที่นี้ คลิกเลย
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 31.628 และ 31.800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 31.000 และ 30.885 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.01% แตะที่ระดับ 102.535
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.567 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.000%
ปัจจัยนักลงทุนลดความคาดหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. และให้น้ำหนัก 14% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนดังกล่าว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,954.24 จุด ลดลง 398.51 จุด หรือ -0.94% เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยฉุดตลาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งจะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน