เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 31.312-32.019 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.862 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ราคารับซื้อ 34,050 บาท
ราคาขายออก 34,350 บาท
ติดตามราคา แท่งเงิน 1 กิโลกรัม ได้ที่นี้ คลิกเลย
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 32.174 และ 32.469 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 31.518 และ 31.309 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.23% แตะระดับ 103.824
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.165 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.097%
ปัจจัยนักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค. ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 92.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย.
รวมทั้งให้น้ำหนัก 84.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,239.05 จุด เพิ่มขึ้น 161.35 จุด หรือ +0.37% ปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) เป็นวันที่ 4 ในรอบ 5 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคสหรัฐฯ และการคาดการณ์แนวโน้มที่สดใสของบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง จำกัด (TSMC) ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป