เมื่อวันจันทร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ราคาเคลื่อนตัวเเบบ Sideway down จากจุดสูงสุดของวันที่ราคา 31.861 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดของวันที่ราคา 30.866 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.346 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 09.07 น.
ราคารับซื้อ 32,700 บาท
ราคาขายออก 33,000 บาท
ติดตามราคา แท่งเงิน 1 กิโลกรัม ได้ที่นี้ คลิกเลย
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 31.844 และ 32.295 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 30.669 และ 30.360 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.42% แตะที่ระดับ 100.86
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 32.461 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.775%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะอยู่ที่ 4.2% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ส.ค.
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือน พ.ย. ลดลงจากระดับ 37% ก่อนที่พาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ และลดลงจากระดับ 53% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,330.15 จุด เพิ่มขึ้น 17.15 จุด หรือ +0.04% โดยดาวโจนส์และ S&P500 ต่างก็ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากดัชนีอ่อนแรงลงในระหว่างวัน ภายหลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดก่อนสิ้นปีนี้