เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีเเรงซื้อกลับเข้ามาตลอดทั้งวันดันให้ราคาพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 30.231 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่ที่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 31.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.255 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.01 น.
ราคารับซื้อ 34,850 บาท
ราคาขายออก 35,150 บาท
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 31.562 และ 31.841&
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 30.681 และ 30.257
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง 0.38% แตะที่ระดับ 106.276
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 34.684 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.414%
ปัจจัยนักลงุนจับตาควมตึงเครียดหลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems หรือ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ขณะที่รัสเซียเตือนว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลไบเดนจะเป็นการบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ ได้เข้าเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำสงครามกับรัสเซีย ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,389.60 จุด ลดลง 55.39 จุด หรือ -0.13% แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) และเทสลา (Tesla) จะออกมาแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ