เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีเเรงซื้อกลับเข้ามาดันให้ราคาพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 31.114 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่ที่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 31.844 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลา 08.58 น.
ราคารับซื้อ 34,450 บาท
ราคาขายออก 34,750 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 31.835 และ 32.000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 31.170 และ 30.800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.81% แตะที่ระดับ 106.748
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 34.0000 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.134%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ จากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ในวันพุธ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,191.24 จุด ลดลง 649.67 จุด หรือ -1.48% ขณะที่ดัชนี S&P500 ดิ่งลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2567 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% จะมีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันอังคารที่ 4 มี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตสหรัฐฯ