เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีเเรงซื้อกลับเข้ามาดันให้ราคาพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 31.800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่ที่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 32.990 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 32.806 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2568 เวลา 08.59 น.
ราคารับซื้อ 35,600บาท
ราคาขายออก 35,900 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 33.100 และ 33.386 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 32.540 และ 32.080 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.66% แตะที่ระดับ 103.293
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.7818 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.272%
ปัจจัยนักลงทุนมีความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ นำมาใช้กับบรรดาประเทศคู่ค้านั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยล่าสุดปธน.ทรัมป์ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็น 50% จากเดิม 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเช้าของวันพุธที่ 12 มี.ค. เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัฐออนแทริโอของแคนาดาประกาศเรียกเก็บภาษีกระแสไฟฟ้าที่ส่งให้แก่สหรัฐฯ ในอัตรา 25%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนก.พ.ในวันนี้ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือน ม.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือน ม.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,433.48 จุด ลดลง 478.23 จุด หรือ -1.14% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็นสองเท่า โดยนักลงทุนกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรล่าสุดนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก