เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีเเรงเทขายกลับเข้ามา ส่งผลให้ราคาร่วงลงจากจุดสูงสุดของวันที่ราคา 30.602 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมาอยู่จุดต่ำสุดของวันที่ราคา 29.692 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 30.047 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 28 มกราคม 2568 เวลา 10.08 น.
ราคารับซื้อ 32,700 บาท
ราคาขายออก 33,000 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 30.300 และ 30.600 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 29.700 และ 29.500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.09% แตะที่ระดับ 107.343
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.9372 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.555%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมในเดือนมิ.ย.และก.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนก.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,713.58 จุด เพิ่มขึ้น 289.33 จุด หรือ +0.65% แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ หลังจากบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ธุรกิจสตาร์ตอัปของจีนได้เปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทเทคโนโลยี AI ชั้นนำในสหรัฐฯ