เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีเเรงเทขายกลับเข้ามา ส่งผลให้ราคาร่วงลงจากจุดสูงสุดของวันที่ราคา 30.510 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมาอยู่จุดต่ำสุดของวันที่ราคา 29.510 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 29.659 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น.
ราคารับซื้อ 33,050 บาท
ราคาขายออก 33,350 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 29.954 และ 30.300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 29.300 และ 29.156 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.28%
แตะที่ระดับ 109.955 ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 34.7000 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.772%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือน ธ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือน พ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน พ.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,297.12 จุด เพิ่มขึ้น 358.67 จุด หรือ +0.86% แต่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ
ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดขยับขึ้นเล็กน้อยหลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนในระหว่างวัน โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รวมทั้งความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้