เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาราคาเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.241-32.236 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.838 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.59 น.
ราคารับซื้อ 34,800 บาท
ราคาขายออก 35,100 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 32.222 และ 32.643 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 31.535 และ 31.237 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 026% แตะที่ระดับ108.319
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 34.1371 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.545%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด เเละเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาของสหรัฐฯ ในวันอังคาร
โดยกล่าวว่าเฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% พาวเวลมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (12 ก.พ.) เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,470.41 จุด เพิ่มขึ้น 167.01 จุด หรือ +0.38% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกเช่นกัน โดยตลาดได้แรงหนุนการการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตเหล็กดีดตัวขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทุกประเทศ