เมื่อวันพุธที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาราคาเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.436-32.168 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.942 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ราคารับซื้อ 34,850 บาท
ราคาขายออก 35,150 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 32.272 และ 32.600 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 31.438 และ 31.200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.29% แตะที่ระดับ 106.710
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.9382 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.279%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต จะปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือน ต.ค. และคาดว่า ดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ 3.1% ในเดือน ต.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 86% ก่อนการเปิดเผยดัชนี CPI
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,148.56 จุด ลดลง 99.27 จุด หรือ -0.22% โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ แต่ดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งครั้งแรก หลังสหรัฐฯ เปิดผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า