เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีเเรงซื้อเข้ามาในปริมาณมากส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันที่ราคา 30.856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดของวันที่ราคา 32.260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เช้านี้ราคาเปิดตลาดที่ 31.944 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประกาศราคาครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ราคารับซื้อ 34,650 บาท
ราคาขายออก 34,950 บาท
ตรวจสอบราคาแท่งเงิน 1 กิโลกรัม Real time คลิก
มุมมองด้านราคาให้แนวต้านที่ราคา 32.272 และ 32.600 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนแนวรับมองที่ราคา 31.541 และ 31.300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.33% แตะที่ระดับ 106.055
ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ 33.743 บาทต่อดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.195%
ปัจจัยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้เงินเฟ้อที่สำคัญก่อนการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในยุคของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือน ม.ค.ปีหน้า
เเละนักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 86% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ในเดือน ก.ย.ตามมาด้วยการปรับลดลง 0.25% ในเดือนพ.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,642.52 จุด ลดลง 123.19 จุด หรือ -0.28% หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานซึ่งบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนนี้