รู้จัก “เครื่องเงินไทย” ในสายตาชาวโลก เครื่องประดับคลาสสิกสุดประณีตที่มีดีไซน์ร่วมสมัย ใส่ได้ทุกวัน ตอบโจทย์สายแฟชั่นทั่วโลก

“เครื่องประดับเงิน” ในมุมมองของหลายคนอาจคิดว่าใส่แล้วเชย หรือทำราคายากหากซื้อมาแล้วต้องการขายต่อ เพราะคนส่วนใหญ่จะสนใจโลหะหรือแร่ที่มีค่าอื่นๆ มากกว่า อย่างทองคำหรือเพชรพลอย แต่จะว่าไปแล้วเครื่องเงินไทยจัดเป็นเครื่องประดับที่มีมูลค่าจากความประณีตในการผลิตชิ้นงานไม่แพ้กัน ด้วยคุณสมบัติพื้นฐานที่นอกจากเป็นโลหะมีค่า และด้วยกรรมวิธีที่แสนละเอียดอ่อน ทั้งถักทอ ตอก ดุน แกะลาย หรือฉลุ จนเกิดเป็นชิ้นงานนำมาพัฒนาเป็นสินค้าได้หลากหลายประเภท ทั้งแนวคลาสสิคชูเสน่ห์เครื่องเงินโบราณ หรือจะแนวดีไซน์ร่วมสมัยใส่ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะแบบไหน ความเก๋ของเครื่องเงินไทยก็ตอบโจทย์สายแฟชั่นได้ทั่วโลก

ในตลาดเครื่องประดับโลก ถึงแม้โลหะเงินและเครื่องประดับเงินจะผลิตและจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก แต่เครื่องประดับเงินของไทยส่งออกสูงสูดเป็นอันดับ 1 ของโลก รองลงมาคือประเทศอินเดีย และเยอรมนีตามลำดับ ด้วยความงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านดีไซน์และการผลิตสุดประณีต เครื่องประดับเงินไทยจึงครองอันดับหนึ่งและเป็นที่ต้องการในตลาดจิวเวลรี่ระดับโลกมาตลอด

คุณดวง โปษยานนท์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Harper’s BAZAAR แบ่งปันแง่มุมในฐานะกูรูผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่นแถวหน้าของเมืองไทย ภายในงาน “Afternoon Tea Talk: ดึงเสน่ห์จิวเวลรี่ไทย สู่เป้าหมาย World’s Jewelry Hub” ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ว่าทุกวันนี้ผู้บริโภคสินค้าแฟชั่นทั่วโลกมีความเป็นตัวของตัวเองสูง โดยจะเห็นได้จากเทรนด์ Personalized Marketing and Services กำลังมาแรงมากในยุคนี้ ดังนั้น
ไม่ว่าสินค้าเครื่องประดับจะทำจากวัสดุใด ไม่ว่าจะเป็นงานเงิน งานพลอย หรือแม้กระทั่งวัสดุทางเลือกสาย recycle ถ้าสินค้าชิ้นนั้นๆ ช่วยส่งเสริมบุคลิกให้ผู้สวมใส่บ่งบอกความเป็นตัวเอง และเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นอีก ถือว่าเจ้าของสินค้านั้นเข้าใจการตีตลาดของผู้บริโภคยุคนี้ได้อย่างดี ยิ่งเป็นเครื่องประดับฝีมือคนไทย โดยเฉพาะงานทำมือถ้ามีคำว่า “Made in Thailand” คำนี้การันตีได้ว่าช่วยมัดใจลูกค้าต่างชาติได้ไม่ยาก
